บ้านคือที่พักใจ เปรียบได้ดังวิมานที่จะคลายความทุกข์ร้อนให้กับคนที่อยู่อาศัยในทุกช่วงเวลาของชีวิต การมีบ้านเป็นของตนเองถือเป็นความสุขที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ ยิ่งหากมีบ้านที่สวยและอยู่สบายด้วยแล้ว ยิ่งถือว่ามีความสุขเป็นเท่าทวีคุณ สำหรับใครที่ต้องการให้บ้านของคุณนั้นทั้งสวยและอยู่สบายด้วย มีเคล็ดลับในการสร้างบ้านสวยและอยู่สบายดังต่อไปนี้
1.วางแผนการสร้างบ้านให้เย็นตลอดทั้งปี
เราต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยนั้นเป็นเมืองร้อน ดังนั้นการจะสร้างบ้านต้องอาศัยเทคนิคที่เหมาะสมเพื่อให้บ้านอยู่สบาย และมีอากาศที่ดีตลอดทั้งปี ซึ่งคุณควรหันหน้าบ้านไปทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออก เนื่องจากสองทิศนี้เป็นทิศที่แสงแดดส่องไม่ถึง ทำให้บ้านไม่ร้อนแม้ต้องโดนแสงอาทิตย์ส่องตลอดทั้งวัน นอกจากนี้การระบายลมเองก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้บ้านเย็น หากเป็นบ้านปูนควรเพิ่มช่องลมบริเวณเหนือหน้าต่างทั้งทิศใต้และทิศเหนือ เนื่องจากสองทิศนี้มีลมพัดตลอดทั้งปี แต่อย่างไรก็ดี หากว่าใครมีงบประมาณอยู่บ้าง ควรจะซื้ออุปกรณ์ที่สร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อป้องกันความร้อน เช่นอิฐมวลเบาที่ช่วยระบายความร้อน ฉนวนกันความร้อนที่บริเวณหลังคา และสุดท้ายคือสีทาบ้านเย็นที่จะช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ที่ส่องมายังตัวบ้านนั่นเอง
2.เลือกวัสดุที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการผลิตวัสดุสร้างบ้านอันจะช่วยรักษาสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี ซึ่งใครที่ต้องการให้บ้านที่คุณรักมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ปราศจากการปล่อยสารพิษจนเป็นอันตรายต่อคนในบ้าน ควรเลือกสอบถามจากบริษัทผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างจะดีที่สุด โดยจุดเด่นของวัสดุที่ปลอดภัยต่อสุขภาพจะมีการดีไซน์ให้สวยงาม สอดคล้องกับบ้านทุกสไตล์ เป็นการสร้างบ้านสวยแบบง่ายๆ คุณจึงมั่นใจได้ว่าบ้านของคุณจะทั้งงดงามและทั้งปลอดภัย
3.ออกแบบห้องให้เหมาะสมต่อการใช้งาน
การออกแบบห้องตั้งแต่เพิ่งเริ่มสร้างบ้านสวยให้อยู่สบายคือสิ่งสำคัญอย่างมาก โดยบ้านที่มีการออกแบบห้องโดยสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญจะสามารถอยู่อาศัยได้อย่างมีความสุข เนื่องจากสถาปนิกจะรู้ในด้านทิศทางของลม และแสงสว่าง ทำให้ห้องอยู่ได้อย่างสบายและสวยงามจนคุณต้องอัศจรรย์ แต่อย่างไรก็ดีการจ้างสถาปนิกอาจเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆ คน เนื่องด้วยราคาที่สูงพอสมควร คุณอาจศึกษาการออกแบบบ้านเองจากในเว็บบอร์ดหรือกระทู้ต่างๆ ก็ได้
จะเห็นได้ว่าการสร้างบ้านสวยและอยู่สบายนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่ประการใด หากแต่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจพอสมควร และที่สำคัญคือใช้เวลาอย่างถี่ถ้วนในการคัดสรรค์วัสดุสร้างบ้าน และมองหาแบบบ้านที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่สบายและสวยงามนั่นเอง
